หลวงพระบาง

ไฮไลท์ของทริปนี้

ฉงชิ่งเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายต่อไปนี้คือไฮไลท์ของทริป
ที่คุณไม่ควรพลาด สถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ธรรมชาติที่สวยงาม อาหารรสเลิศ

รวมร้านเด็ดหม่าล่าฉงชิ่ง

หอพระบาง

ดินแดนแห่ง 4 สิ่งมหัศจรรย์

ตาดกวางสี

ใจกลางฉงชิ่งเอาใจสายช้อป

พระธาตุพูสี

ใจกลางฉงชิ่งเอาใจสายช้อป

ตักบาตรเช้า

รายละเอียดทริป

Lorem ipsum dolor sit amet consectetur. Mi purus enim aliquet pellentesque diam tempus augue. Augue nullam vel vitae pellentesque ac. Convallis amet auctor lacus quam sagittis ut vitae.

DAY 1 - บินไว ไปเมืองมรดกโลก

เดินทางไปหลวงพระบางกัน

บินกับแอร์เอเชีย ตรงเวลา คุ้มค่า มั่นใจตลอดการเดินทางแน่นอน

บินกับสายการบินในดวงใจแอร์เอเชีย ไฟล์ทบินช่วงบ่าย ได้เที่ยวต่อสบายๆ ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK) เวลา 12:40 ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง (LPQ) เวลา 14:05 ใช้เวลาแค่ 1.25 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เที่ยวได้ทั้งครอบครัว

นั่งรถเข้าเมือง

สายลุยอย่างเราของนั่งรถตุ๊กๆ เข้าเมืองกัน

เราใช้บริการรถตุ๊กๆ ที่จอดอยู่แถวหน้าสนามบินเพื่อเข้าไปยังตัวเมืองกัน ระยะทางไม่ไกลมาก นั่งได้สบายๆ

เช็คอินเข้าที่พัก ควีน เฮาส์

ที่พักสุดน่ารัก ทำเลดี เดินเที่ยวเล่นต่อได้สบายๆ

ที่พักหลวงพระบางที่เราพักกันครั้งนี้เป็นที่พักเล็กๆสไตล์หลวงพระบางสุดน่ารัก สะอาด กว้างขวาง พนักงานน่ารักให้ความช่วยเหลือเราสองคนใน ทุกๆเรื่องสุดๆ ที่สำคัญไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว แถมราคาไม่แรงด้วยนะ จากที่พักเราสามารถเดินไปเที่ยวได้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุพูสี หอพระบาง พระราชวังหลวงพระบาง ตลาดมืด ตลาดเช้า อยู่ใกล้ๆ กับที่พักหมดเลยถือว่าดีงามมากๆ

เดินเล่นชิลๆ

จุดนี้ต้องแวะ wilson (วิวสวยย)

ด้วยความที่หลวงพระบางเป็นเมืองที่ไม่ได้ใหญ่ มาก ตรอกซอกซอยทะลุถึงกันแทบจะทั้งหมด เราสามารถออกมาเดินสูดอากาศสดชื่นชมวิถีชีวิตในตอนเช้า เดินไปถ่ายรูปไป แวะร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร ช้าๆ สโลว์ไลฟ์ตามสไตล์หลวงพระบาง ดีต่อใจสุดๆ

เดินเล่นชมวิวริมแม่น้ำโขงกัน

“จุดนี้ต้องแวะ wilson (วิวสวยย)”

วันนี้มาถึงช่วงบ่ายแก่ๆ พอดี หลังจากเช็คอินเรียบร้อย พี่กับหนูก็จูงมือกันไปเดินเล่นชมแสงพระอาทิตย์ตกดินสวยๆที่ริมแม่น้ำโขงกัน ในช่วงเย็นหากใครไม่ได้ขึ้นพระธาตุพูสี อีกหนึ่งกิจกรรมที่เราอยากแนะนำคือมาเดินชมวิวแม่น้ำโขงยามเย็น แสงสะท้อนสีทองของพระอาทิตย์กระทบบนผิวน้ำสวยจับใจ แถมเราจะเห็นเรือรับจ้างข้ามฟากและเรือนำเที่ยวแม่น้ำโขงแล่นผ่านไปมา หรือใครสนใจจะนั่งเรือเล่นยามเย็นก็ได้นะ โดยราคาตามแต่เราจะตกลงเลย

ตกเย็นมาเดินเล่นที่ตลาดไนท์พลาซ่า

ตลาดสุดชิล แหล่ง Street Food แสนอร่อย ที่เปิดในช่วงเย็น

ปิดท้ายวันนี้กับการเดินเล่นหาของฝาก ของน่ารักๆ ของกินให้อิ่มท้องกัน ตลาดกลางคืนที่นี่มีของขายเยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นของฝาก รูปภาพ ของแฮนด์เมด เสื้อผ้า โดยด้านหน้าตลาดจะรวบรวมร้านขายอาหารไว้ที่เดียวกัน แต่ละร้านน่าทานสุดๆ ทานข้าวเสร็จแล้วก็มาเดินเล่นกันต่อ เค้าจะเริ่มปิดถนนและตั้งร้านขายของในช่วงตอนเย็นนะ เราชอบความเงียบสงบของที่นี่มาก แม้แต่ที่ตลาดเค้าก็ยังไม่ได้เปิดเพลงอะไรเลย มีแค่เสียงผู้คนพูดคุย กับเสียงแม่ค้าพ่อค้า และเสียงธรรมชาติลมพัดผ่านเท่านั้นเอง ดีจัง

DAY 2 - ขับรถมอเตอร์ไซค์เที่ยวเล่น สัมผัสธรรมชาติสวยๆ ของหลวงพระบางกัน

ตลาดเช้าหลวงพระบาง

สัมผัสกับวิถีชีวิตในช่วงเช้า ของชาวหลวงพระบาง

สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง มีอาหารเช้า อาหารพื้นเมืองให้ลิ้มลอง ตั้งอยู่ถนนเส้นหลักเมืองหลวงพระบาง เอกลักษณ์คือที่นี่จะวางสินค้าแบกับดิน สไตล์เมือกเก่า บรรยากาศน่ารักมาก จะมีชาวบ้านนำอาหาร หรือพืช ผัก ผลไม้ มาขายเต็มไปหมดเลย อีกหนึ่งไฮไลท์ที่อยากให้เพื่อนๆได้มาสัมผัส

ร้านประชานิยม

ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของหลวงพระบาง

ท้องเริ่มร้องแล้วพี่กับหนูขอมาทานอาหารเช้าเติมพลังกันก่อนน้า ที่นี่ร้านประชานิยม ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของหลวงพระบาง มีขายทั้งโจ๊ก ข้าวเปียกเส้น กาแฟร้อน เย็น อาหารรสชาติอร่อย แถมวิวดีติดแม่น้ำโขง ราคาไม่แพง เสน่ห์ของร้านนี้คือเค้าใช้เตาฟืนด้วย

เช่ารถมอเตอร์ไซค์กับทางที่พัก

สัมผัสสายลมเย็นๆ และวิวธรรมชาติสองข้างทาง เต็มไปด้วยภูเขาสีเขียว

วันนี้เรามีแพลนออกนอกตัวเมือง เราสองคนเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากทางที่พัก วันละ 260 บาท ไม่รวมค่าน้ำมันนะ สามารถสอบถามได้จากที่พักเลย แพลนของวันนี้จะเป็นการ ขับกินลมชมวิว ไปสัมผัสธรรมชาตืที่ตาดกวางสีกัน

ขับมอไซค์ไปตาดกวางสี

น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง

เราขอยกให้ที่นี่เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง!!! ธรรมชาติที่นี่สวยมาก ด้วยสีน้ำฟ้าเทอร์ควอยซ์ กับขั้นบันไดผาหินปูนของน้ำตก สวยงามอลังการมากๆ และด้วยความร่มรื่นและเย็นสบายทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำที่ตาดกวางสี หรือมานั่งเล่นปิคนิค โดยส่วนมากนิยมเหมารถมาจากหลวงพระบาง หรือถ้าใครลุยหน่อยก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขับกันมาเองเลย อยู่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางราวๆ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเท่านั้น ควรค่าแก่การมาอย่างยิ่ง

เดินเล่นต่อที่ศูนย์อนุรักษ์หมี

หมีที่ถูกช่วยเหลือจากการ ค้าสัตว์ป่าในสถานที่ต่างๆในประเทศลาว

ศูนย์อนุรักษ์หมี อยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับตาดกวางสี เป็นแหล่งรวบรวมหมีจากการช่วยเหลือจากการค้าสัตว์ป่าในสถานที่ต่างๆ ในประเทศลาว ซึ่งค่าเข้าชมส่วนหนึ่งก็นำมาอนุรักษ์บำรุงหมี แถมเรายังสามารถร่วมสมทบทุนได้อีกทาง โดยการซื้อเสื้อยืด หรือบริจาคเงินผ่านตู้รับบริจาคเลยก็ได้

ทานอาหารริมน้ำตกตาดแก้วมงคล

อาหารลาวรสชาติเด็ดจัดจ้าน ราคาไม่แรง แถมวิวน้ำตกก็สวยสุดๆ

แวะนั่งชิลทานอาหารที่ริมน้ำตกตาดแก้วมงคลกันหน่อย เป็นร้านอาหารที่วิวสวยมากๆ มองเห็นน้ำตกไหลเย็นชื่นใจได้ทุกมุม อยู่ไม่ไกลกับจุดขายตั๋วเข้าน้ำตกตาดกวางสี สามารถเดินเข้ามาหรือจะให้รถกอล์ฟทางอุทยานเข้ามาส่งก็ได้นะ อาหารรสจัดจ้าน ราคาไม่แรงแถมวิวน้ำตกก็สวยสุดๆ เดินเล่นน้ำตกตาดกวางสีจนเหนื่อยแล้วอย่าลืมแวะมาทานอาหารได้ที่นี่น้า เค้ามีมุมถ่ายรูปน่ารักๆจัดไว้ให้เรียบร้อยเลย ใครมาก็ได้มุมนี้ทุกคนแน่นอน

ชมความสวยงามของหอพระบาง

ที่ประดิษฐานพระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง

กลับจากธรรมชาติสวยๆของน้ำตกในช่วงบ่ายๆ ตอนเย็นแดดร่มลมตกเรามาเดินกันในตัวเมืองหลวงพระบาง ที่แรกที่มาเลยก็คือหอพระบาง เป็นที่ประดิษฐานของ พระบาง หรือ พระบางพุทธลาวัลย์ พระคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร หล่อด้วยสำริด โดยในวันสงกรานต์จะมีการอัฐเชิญพระบางออกมา ไว้ที่วัดใหม่สุวรรณภูมาราม เพื่อให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้สรงน้ำกัน

เดินเล่นต่อที่พระราชวังหลวงพระบาง

หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง สถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ

อีกหนึ่งที่ที่อยู่ภายในบริเวณเดียวกันกับหอพระบางนั่นก็คือ พระราชวังหลวงพระบาง หรือหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง สถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ รวมถึงของขวัญจากต่างประเทศ เดิมคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง ภายในเดินเล่นถ่ายรูปกันได้ด้วยนะ

ตกเย็นไปดูพระอาทิตย์ตกที่พระธาตุพูสี

จุดชมวิวที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง

วันก่อนชมวิวริมโขงกันมาแล้ว วันนี้พี่กับหนูมาชมวิวเมืองหลวงพระบางที่อยู่ท่ามกลางภูเขาและต้นไม้จากมุมสูงกัน พระธาตุพูสี จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก 360 องศาที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง ที่นี่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกมากที่สุด เดินขึ้นบันไดไม่นานพอได้เหงื่อเล็กน้อย แต่พอเห็นวิวตัวเมืองก็หายเหนื่อยเลย ธรรมชาติของเมืองลาวนี่สวยงามสุดๆ

DAY 3 - วันสบายๆ ทำบุญให้จิตใจผ่องใส ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความสุข

ตักบาตรเช้าหน้าวัดแสนสุขราม

ตักบาตรข้าวเหนียว หนึ่งในเสน่ห์ของเมืองหลวงพระบาง

เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง พี่กับหนูเราตื่นแต่เช้าตรู่ ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพื่อมาตักบาตรข้าวเหนียวกัน พิกัดที่พี่กับหนูมากันก็คือหน้าวัดแสนสุขาราม อีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่ต้องห้ามพลาด คือการตักบาตรข้าวเหนียว ราคาราวๆ 80 บาทต่อหนึ่งชุด มีขายที่แถวบริเวณหน้าวัดเลย ซึ่งที่นี่มีพระสงฆ์และสามเณรกว่าร้อยรูป เดินบิณฑบาตในยามเช้า เราสามารถใส่ได้ตามจุดต่างๆ ที่เค้าจัดเตรียมไว้ให้เลยนะ ในช่วงเช้าแบบนี้ เราจะได้เห็นทั้งนักท่องเที่ยว และชาวบ้านออกมาตักบาตรร่วมกัน เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ และยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบางอีกด้วย

วัดเชียงทอง

มณีแห่งศิลปะล้านช้าง

ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองหลวงพระบางที่ห้ามพลาดเด็ดขาด โดยภายในมีพระอุโบสถ(สิม) ที่ได้รับการยกย่องเป็นมณีแห่งศิลปะล้านช้างที่ยังสมบูรณ์และเก่าแก่ที่สุด ด้านหลังมีหอไหว้พระ ขนาดเล็ก2หลัง ที่เรียกกันว่าหอไหว้สีกุหลาบ หรือหอไหว้แดง ภาพคุ้นกับภาพกำแพงสีแดงตกแต่งด้วยงานกระจกแสดงเรื่องราวต่างๆทั้งวิถีชีวิต นิทานพื้นบ้านอีกจุดที่ห้ามพลาด

ปั่นจักรยานเล่นชิลๆ ใช้ชีวิตช้าๆ ก่อนกลับ

ปั่นจักรยานชมบ้านเรือนคลาสสิก สูดอากาศสดชื่นในยามเช้า

อีกหนึ่งกิจกรรมและถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวหลวงพระบางเลยคือการปั่นจักรยาน เล่นรอบๆ เมือง ชมวิถีชีวิตบ้านเรือนและธรรมชาติ เราเลือกปั่นหลังจากตักบาตรเสร็จ เพราะอากาศยังเย็นสบาย

นั่งรถจากตัวเมือง ไปสนามบิน

ถึงเวลาต้องโบกมือลาเมืองแห่งความสุข

เราใช้บริการรถตุ๊กๆ ที่จอดอยู่แถวถนน ต่อรองราคากันได้ตามใจ ให้เข้าไปส่งที่สนามบินเพื่อนบินกลับประเทศไทยกัน

เดินทางกลับประเทศไทยกัน

กลับถึงไทยอย่างปลอดภัย

บินกับสายการบินในดวงใจแอร์เอเชีย ไฟล์ทบินช่วงบ่าย ออกจาก ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง (LPQ) เวลา 14:35 ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง (DMK) เวลา 16:05 ถึง ใช้เวลาแค่ 1.30 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

ใช้ชีวิตกันแบบช้าๆ ที่หลวงพระบางเมืองมรดกโลก ชมความงามอลังการของธรรมชาติ สัมผัสวัฒนกรรมเก่าแก่ ทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว ปั่นจักรยานเล่นท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองสุดคลาสสิก ผู้คนน่ารักใจดีมาก

ค่าเครื่องบิน

เริ่มต้น 4,000* บาท

*ราคาเป็นเพียงการประเมินคร่าวๆเท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ค่าเดินทาง

~ 1,000 บาท

เริ่มต้น 3,000* บาท

ค่าอาหาร

~ 1,500 บาท

*ราคาเป็นเพียงการประเมินคร่าวๆเท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ค่าสถานที่ท่องเที่ยว

~ 300 บาท

เริ่มต้น 3,000* บาท

ค่าที่พัก

~ 1,500 บาท

เริ่มต้น 3,000* บาท

ค่าช้อปปิ้ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

~ 500 บาท

เริ่มต้น 3,000* บาท

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ทั้งหมด (3 วัน 2 คืน)

ประมาณ 8,800 บาท

*ราคาค่าเครื่องบินอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสายการบินกำหนด

แกลเลอรี่ (15)

มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่หลวงพระบางกัน

3 วัน 2 คืน

8,800* บาท

ทริปสั้นงบหลักพัน

ตุลาคม-กุมภาพันธ์

ทริปสั้นขยันบิน ที่